 |
หน้าตาผลตาลสุก ตาลสุก กดดูจะนิ่ม กลิ่นหอมแรง ผิวดำ |
  | 1.งัดขั้วตาลทิ้ง ถ้าสุกมาก ดึงเบาๆ ก็หลุด |
 | 2. ล้างผิวลูกตาลโดยรอบให้สะอาด .. |
 | 3.ฉีกหรือปอกเปลือกโดยรอบทิ้ง |
 |
หน้าตาลูกตาลตอนฉีกเปลือกทิ้งแล้ว เหลืองอร่าม
ลูกตาล 1 ลูก มี3-4 เมล็ด...ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542
คำว่าเต้า ใช้เรียก พูลูกตาล ..เช่นตาล 2 เต้า เอ่อ งง เล็กน้อยค่ะ สรุปว่าต้องเรียก พู หรือเต้า เนี่ย อิอิ |
 | 4. ฉีกพูตาลให้แยกจากกัน ผลนี้ได้ 3 เต้า |
 | 5. ดึงแกนกลางเป็นเส้นตรงแข็งๆ เรียกว่า ดีตาล ที่อยู่ตรงกลางทิ้ง ดีตาลทำให้เนื้อขนมตาลขม หรือเฝื่อน |
 | 6.ดึงเปลือกดำที่ซ่อนอยู่ส่วนในทิ้งด้วย บางลูกก็ไม่มีค่ะ |
 | ได้ 3 เต้า ค่ะ |
 | 7.ยีตาลกับ ตะแกรง, ตะกร้า, กระชอน, หรือใช้ช้อนขูดก็ได้
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับคอฟฟี่เบค คือวิธีที่สะดวกที่สุดค่ะ คือมีอะไร ก็ใช้อันนั้นนั่นเอง ที่เห็นนี่ ...อิอิ ใช้ตะแกรงรองแก้วค่ะ 555
8. เริ่มยีโดยขูดเนื้อตาลกับตะแกรงให้เนื้อไหลลงก้นภาชนะรอง |
 | 9. จุ่มน้ำเล็กน้อย ถ้าเริ่มแห้ง ทั้ง 3 เต้า คอฟฟี่จุ่มแค่ 3 ครั้ง จากนั้นหันมา จุ่มน้ำในเนื้อตาลแทน ทำแบบนี้น้ำจะได้ไม่เยอะเกิน |
 | เนื้อตาลที่ยีแล้ว |
 | 10.กรองด้วยผ้าขาวบางชนิดบาง ...อย่าใช้แบบหนานะคะ เดี๋ยวหน้าเขียวไม่รู้ด้วย อิอิ |
 | เศษเส้นใย จะค้างอยู่ในผ้า ได้เนื้อตาลที่เนียน |
 | 11.นำเนื้อตาลที่กรองแล้ว มาใส่ผ้าขาวบางห่อมัดด้วยเชือกอีกครั้ง เพื่อ เอาไปแขวนแยกน้ำและเนื้อตาลออกจากกัน วิธีนี้เรียกว่า การเกรอะตาล |
 | แขวนทิ้งไว้ 1 คืน น้ำจะไหลลงพื้น เหลือแต่เนื้อตาล |
 | 12..หน้าตาเนื้อตาลที่ผ่านการเกรอะแล้ว น่าจะมีน้ำเหลืออยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น